การใช้งาน Google Calendar ให้สะดวกและเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การเพิ่มนัดหมายเท่านั้น แต่การจัดโครงสร้างให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยคุณสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วย 3 ขั้นตอนหลัก คือ การแยกปฏิทินตามหมวดหมู่ เช่น งาน ส่วนตัว หรือโปรเจกต์ต่าง ๆ การตั้งค่าสีให้แต่ละปฏิทินเพื่อแยกแยะกิจกรรมได้ชัดเจน และสุดท้ายคือการเลือกให้ถูกว่ากิจกรรมใหม่ควรบันทึกลงในปฏิทินไหน
เมื่อทั้งสามส่วนนี้ทำงานร่วมกัน ตารางงานของคุณก็จะดูเป็นระเบียบมากขึ้น ช่วยให้ค้นหา จัดการ และวางแผนงานหรือชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2.มองที่หน้าจอฝั่งซ้ายมือ แล้วคลิกเครื่องหมาย + ที่แถบ “Other calendars”

3.เลือก “Create new calendar”

4.ตั้งชื่อปฏิทินใหม่ เช่น Work สำหรับงาน

5.ใส่คำอธิบายเพิ่มเติมที่ “Description” เช่น ปฏิทินงานบริษัท

6.กดปุ่ม “Create calendar”

ขั้นตอนการตั้งค่าสีให้กับปฏิทินใน Google Calendar
1.หาชื่อปฏิทินของคุณใน “My calendars” ที่แถบด้านซ้าย

2.คลิกสัญลักษณ์ 3 จุด ที่ชื่อปฏิทิน

3.เลือกสีเฉพาะให้ปฏิทิน

หลังจากคุณแยกปฏิทินตามประเภทกิจกรรมและตั้งค่าสีเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการใช้งานจริง
โดยเฉพาะการเลือกให้ถูกว่ากิจกรรมแต่ละอย่างควรบันทึกลงในปฏิทินไหน เพื่อให้ตารางของคุณเป็นระเบียบ ค้นหาง่าย และไม่ปะปนกันในภายหลัง ดูขั้นตอนการเลือกปฏิทินตอนสร้างกิจกรรมต่อด้านล่าง 👇
ขั้นตอนการบันทึกกิจกรรมลงในปฏิทินที่ต้องการ
เมื่อต้องการบันทึกกิจกรรมลงในปฏิทินที่คุณแยกไว้แล้ว (เช่น ปฏิทินงาน ปฏิทินส่วนตัว หรือโปรเจกต์เฉพาะ)
คุณสามารถจัดการได้ 2 แบบ ขึ้นอยู่กับว่าสร้างกิจกรรมไว้แล้วหรือยัง:
กรณียังไม่สร้างกิจกรรม
1.คลิกปุ่ม “+ Create” (มุมบนซ้ายของ Google Calendar)

2.ใส่ชื่อกิจกรรม รายละเอียด วันเวลา ฯลฯ

3.เลือกปฏิทินที่ต้องการบันทึกกิจกรรม

4.ตั้งค่าตามเงื่อนไขต้องการ

5.กด “Save” เพื่อบันทึก

กรณีมีกิจกรรมอยู่แล้ว แต่ต้องการย้ายไปปฏิทินอื่น
1.คลิกกิจกรรมที่ต้องการย้าย

2.คลิกไอคอนดินสอ (Edit) เพื่อแก้ไข

3.เลือกปฏิทินตามหมวด/กิจกรรมที่ต้องการ

4.กด “Save” เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

หมายเหตุ:
- ถ้าลืมเลือกปฏิทิน ระบบจะบันทึกลงใน Primary Calendar (ปกติจะเป็นชื่ออีเมลคุณ) โดยอัตโนมัติ
- การตั้งการแจ้งเตือนจะแยกตามแต่ละ Event ไม่ได้ผูกกับปฏิทินโดยตรง (ยกเว้นคุณจะตั้ง Default Notification สำหรับแต่ละปฏิทินใน Settings)