หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ Generative Extend ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Firefly Video ด้วยการใช้ AI ช่วยตัดต่อวิดีโอไปก่อนหน้านี้ และได้รับ Feedback ไปในทางที่ดี ตอนนี้ Adobe Premiere Pro ได้เปิดให้ทดลองใช้งานในเวอร์ชัน Beta แล้ว
โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถขยายคลิปเพื่อปิดช่องว่างในฟุตเทจ, ปรับความสมูทเวลาเปลี่ยนฉาก หรือยืดช็อตให้นานขึ้นเพื่อให้ได้จังหวะที่
เหมาะสม และอื่น ๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์ Generative Extend
ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Generative Extend :
- ปรับจังหวะการตัดต่อได้ตามต้องการทั้ง J หรือ L Cut รวมไปถึงการใส่ Transition ต่าง ๆ

- แก้ไขทิศทางสายตาหรือการเคลื่อนไหวให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

- สร้างหรือขยายเสียงเอฟเฟ็กต์เพิ่มเติมให้ดูลื่นไหลขึ้น (ไม่สามารถสร้างหรือขยายเสียงพูดและเพลงได้ เนื่องจากอาจติดปัญหาด้านลิขสิทธิ์)
การสร้างหรือขยายเสียงเอฟเฟ็กต์

ซึ่งในตอนนี้ ฟีเจอร์ Generative Extend ในเวอร์ชัน Beta ยังคงมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ ดังนี้
- รองรับความละเอียด 1920×1080 หรือ 1280×720
- รองรับอัตราส่วนภาพ 16:9
- รองรับ 12-30fps
- รองรับ 8 bit, SDR
- รองรับระบบเสียง Mono และ Stereo
นอกจากนี้ ทาง Adobe ยังได้ประกาศว่า หลังจาก Export ผลงานออกมาจาก Adobe Premiere Pro และ Media Encoder ที่มีการใช้งานฟีเจอร์ Generative Extend จะมี Content Credentials ที่ถูกรวมลงไปในผลงาน ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่ามีการปรับแต่งอะไรบ้าง และใครเป็นผู้สร้างผลงานชิ้นนี้ ทำให้ผู้สร้างผลงานได้รับเครดิตที่ถูกต้องตามสมควร และช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้กับผู้ชมอีกด้วย

ที่มา : Adobe Blog