อัปเดตไม่พักกันเลยทีเดียว ! ตอนนี้ PowerPoint ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือทำสไลด์อีกต่อไป
Microsoft ขยับอีกขั้น ยกระดับให้กลายเป็นแพลตฟอร์มเล่าเรื่องแบบมืออาชีพ ที่ครบทั้งภาพ เสียง และใช้งานได้ลื่นไหลบนทุกอุปกรณ์
จากเดิมที่แค่แทรกวิดีโอได้ ตอนนี้ PowerPoint รองรับการพรีเซนต์ในรูปแบบวิดีโอเต็มตัว ไม่ว่าคุณจะอัดเสียง ใส่ภาพผู้พูด หรือเพิ่มคำบรรยาย ก็ทำได้ง่าย ๆ ครบจบในโปรแกรมเดียว
ฟีเจอร์ใหม่ที่ต้องลอง พรีเซนต์ยังไงก็ “ดูโปร” ทันที
- Recording Studio
อัดเสียงพูดประกอบสไลด์ได้ในตัว ไม่ต้องพึ่งโปรแกรมตัดต่อ
- Cameo
ใส่ภาพผู้พูดลงในสไลด์แบบเรียลไทม์ สื่อสารได้เป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
- Export วิดีโอเร็วขึ้น
ส่งงานได้ทันใจ ลดปัญหา system crash หรือการส่งออกวิดีโอไม่สำเร็จในช่วงเวลาเร่งด่วน
- Closed Captions + แปลภาษาในตัว
รองรับ WebVTT และ SRT พร้อมระบบรู้จำเสียงอัตโนมัติ (เฉพาะ Mac และ Web) เข้าใจง่ายแม้ไม่ได้เปิดเสียง หรือใช้ภาษาต่างกัน
- แทรกไฟล์ไหนก็มั่นใจ PowerPoint จัดการให้
ไม่ต้องกังวลเรื่องไฟล์ไม่รองรับ PowerPoint จะพยายามแปลงเป็น MPEG-4 ให้อัตโนมัติ เพื่อให้เปิดข้ามอุปกรณ์ได้ลื่นไม่มีสะดุด
- Optimize Media Compatibility
แปลงไฟล์มีเดียทั้งหมดในสไลด์ให้พร้อมใช้งานในคลิกเดียว
- PowerPoint Live บน Teams
นำเสนอออนไลน์ได้ลื่น ผู้ชมควบคุมวิดีโอเองได้ ไม่รบกวนคนอื่นในห้องประชุม
เริ่มเปิดใช้งานแล้วบน Microsoft 365 (บางเวอร์ชัน)
Microsoft เริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์เหล่านี้ให้กับผู้ใช้งาน Microsoft 365 โดยเฉพาะกลุ่ม Beta Channel ที่ได้ทดลองก่อนใคร
- Export วิดีโอเร็วขึ้น
ใช้ได้ใน PowerPoint for Windows เวอร์ชัน 2409 (Build 18025.20000)
- แปลงไฟล์เป็น MPEG-4 อัตโนมัติ
ใช้ได้ตั้งแต่เวอร์ชัน 2504 (Build 18626.20000)
- Closed Captions บน Mac
ใช้ได้ในเวอร์ชัน 16.98 (Build 25050401) ขึ้นไป (ตามข่าวล่าสุดที่ได้มีการประกาศออกมาก่อนหน้า)
- เลิกใช้ DirectShow + Upgrade Media Object อัตโนมัติ
ใช้ได้ในเวอร์ชัน 2505 (Build 18812.20000)
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยปล่อยเร็ว ๆ นี้ รอติดตามได้เลย !
หากคุณต้องการใช้งาน PowerPoint หรือแอปอื่น ๆ ในชุด Microsoft 365 ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ NTS พร้อมดูแลคุณด้วยบริการ Microsoft 365 ลิขสิทธิ์แท้ และทีมผู้เชี่ยวชาญให้การซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้การทำงานของคุณลื่นไหล ไม่สะดุด แม้แต่วินาทีเดียว
ที่มา: Microsoft 365 Insider Blog