Google Chrome เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการแจ้งเตือนปัญหาประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทราบได้ทันทีหากมีแอปหรือส่วนขยายที่ทำให้เบราว์เซอร์ทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ยังสามารถแนะนำการปิดหรือการปรับแต่งการตั้งค่าได้ด้วย เพื่อให้การใช้งาน Chrome ราบรื่นมากขึ้น
ฟีเจอร์นี้มี 3 โหมด ได้แก่
- โหมด Standard แบบใหม่ (แต่เดิมเรียก Moderate) – โหมดนี้จะปิดใช้งานแท็บโดยอัตโนมัติตามความต้องการของระบบ โหมดนี้เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการตั้งค่าเพิ่มเติมมากนัก
- โหมด Balance (โหมดนี้ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง) – โหมดนี้จะดูพฤติกรรมของผู้ใช้และความต้องการของระบบ กล่าวคือ แท็บจะถูกปิดใช้งานตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อให้เบราว์เซอร์มีความเสถียรและเหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน
- โหมด Advance (โหมดขั้นสูงสุด) – โหมดนี้จะปิดใช้งานแท็บได้เร็วกว่าโหมดอื่น โดยแท็บที่หยุดใช้งานจะถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เบราว์เซอร์ทำงานอย่างรวดเร็วและไม่ค้าง
วิธีการตั้งค่าเลือกโหมดการใช้งาน ไปที่การตั้งค่า > ประสิทธิภาพ > Memory Saver
ซึ่ง Google Chrome ได้เพิ่มเครื่องมือ Performance Detection ที่ช่วยตรวจจับปัญหาประสิทธิภาพการทำงานและเสนอวิธีแก้ไข เมื่อพบปัญหา ไอคอนรูปความเร็ว (speedometer) จะปรากฏทางขวาของแถบที่อยู่ (address bar) เพื่อแจ้งเตือน ผู้ใช้สามารถกดปุ่ม “Fix now” เพื่อทำให้แท็บที่ใช้ทรัพยากรมากเกินไปหยุดทำงาน ช่วยให้เบราว์เซอร์ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่ถ้าอยากปิดการแจ้งเตือน สามารถไปปิดได้ที่ Settings > Performance > Performance issue alerts โดยฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้งานกับ Chrome เวอร์ชัน 130 แต่ยังไม่เปิดให้ใช้งานอย่างแพร่หลาย
นอกจากนี้ Chrome ยังเพิ่มการตั้งค่าใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น การปิดแสดงข้อมูลการใช้หน่วยความจำเมื่อวางเมาส์บนแท็บ โดยสามารถตั้งค่าได้ใน Settings > Appearance > Show memory usage on tab hover preview card และการปรับลักษณะการแสดงผลของแท็บที่ไม่ได้ใช้งานใน Settings > Performance > Inactive tab appearance
ฟีเจอร์ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ที่พบปัญหาในการเปิดเว็บไซต์ หรือประสบปัญหาหน้าจอโหลดนาน ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยอาจมาจากแอปพลิเคชันหรือส่วนขยายที่ใช้ทรัพยากรมากเกินไป ขณะเดียวกัน ระบบแจ้งเตือนนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ประเมินได้ว่าส่วนขยายใดทำให้ระบบช้าลง โดยจะแจ้งเตือนให้ทราบทันทีเมื่อพบปัญหา พร้อมเสนอแนะแนวทางในการแก้ไข
นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการทำงานแล้ว การแจ้งเตือนปัญหาประสิทธิภาพยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในภาพรวม ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Chrome ที่ตรงใจผู้ใช้งาน
ที่มา – 9to5Google